- ช่องคลอดแห้ง
- ท้องอืด
- อาการหดหู่ อารมณ์แปรปรวน
- ประจำเดือนอาจมาช้าไปบ้าง
เปอร์เซ็นต์ การตั้งครรภ์ในแต่ละครั้งแปรตามจำนวนตัวอ่อนที่ใส่เข้าไป แต่ถ้าใส่มากเกินก็เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์แฝดที่มีเด็กมากเกิน ซึ่งเสี่ยงต่อการแท้ง การคลอดก่อนกำหนด ฯลฯ (ดูเรื่องครรภ์แฝด) และค่าใช้จ่ายที่อาจจะต้องนอนโรงพยาบาลนานก่อนคลอด เด็กได้รับการบริบาลนานและนอนโรงพยาบาลนานเพราะคลอดก่อนกำหนด และความยากลำบากในการเลี้ยงลูกคราวเดียวหลายคน
ในกรณีที่มีตัวอ่อนเหลือแต่ละครั้ง คนไข้อาจจะเลือกตัดสินใจว่า
- แช่แข็งไว้ใส่ครั้งต่อไป
- บริจาค ให้คนอื่นที่ต้องการตัวอ่อน ( ซึ่งตามหลักการเราจะไม่ให้รู้ว่าให้กับใครและไม่ให้คนได้ตัวอ่อนทราบด้วยว่า ได้จากใครเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดในภายหลัง)
- ปล่อยให้ตัวอ่อนเจริญเติบโตในห้องทดลองจนหยุดการแบ่งตัวและสลายไปเอง
ข้อพิจารณาสำหรับคู่สมรสที่ต้องการทำเด็กหลอดแก้วขบวน การทำเทคนิคช่วยการเจริญพันธุ์ รวมถึงการทำเด็กหลอดแก้ว อาจจะทำให้เกิดปัญหาทางจิตวิทยา เช่น ความเครียด ความกังวล ความผิดหวัง เสียใจได้ หดหู่ท้อถอย ขาดความมั่นใจในตัวเองและผลของการทำจนสำเร็จสมใจนั้นมากที่สุดไม่เกิน 50% ในแต่ละครั้ง จึงต้องทำใจไว้ก่อน และถ้าไม่มั่นใจในตัวเองอาจให้แพทย์แนะนำจิตแพทย์ให้ก่อนได้
นอกจากนี้ระหว่างขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว สตรีที่ทำต้องให้เวลาในการพบแพทย์เพื่อตรวจตามนัดทุกครั้ง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา 3-6 สัปดาห์ แล้วแต่ว่าจะทำแบบใด ฝ่ายชายต้องช่วยสนับสนุนและต้องพร้อมที่จะมานำน้ำเชื้ออสุจิออกมาเมื่อถึง เวลาเจาะดูดไข่ และทำการปฎิสนธิด้วย
การทำเด็กหลอดแก้วแต่ละครั้ง อาจมีเหตุต้องล้มเลิกกลางคันแล้วเริ่มต้นใหม่ภายหลัง ไม่มีการรับประกันการตั้งครรภ์และการได้บุตร มีเหตุผลมากมายทั้งที่อธิบายได้และอธิบายไม่ได้ที่ทำให้ไม่ตั้งครรภ์ ที่พอจะอธิบายได้ มีดังนี้
- ไม่ได้ไข่ที่ต้องการ เนื่องจาก- กระตุ้นไข่แล้วถุงไข่ไม่เจริญ โตตามที่ต้องการ
- มีการตกไข่ (ไข่ตก) ก่อนถึงเวลาเจาะไข่
- ถุงไข่บางถุงเจาะดูดแล้วไม่ได้ไข่ออกมา
- มีพังผืดในอุ้งเชิงกรานซึ่งยากที่จะเจาะไข่อย่างปลอดภัยได้ - ไข่ที่ดูดออกมาได้อาจไม่ปกติ
- มีปัญหาในการเอาอสุจิมาปฏิสนธิกับไข่ ได้แก่- ถึงเวลาแล้ว ฝ่ายชายเอาเชื้ออสุจิออกมาไม่ได้
- ได้เชื้ออสุจิน้อยเกินกว่าที่จะปฏิสนธิได้
- ห้องปฏิบัติการมีความสามารถบางอย่างไม่พอ
- กรณีขอเชื้ออสุจิบริจาคแล้ว เมื่อถึงเวลาไม่ได้เชื้อมา - ไม่มีการปฏิสนธิ แม้ไข่และอสุจิจะตรวจแล้วว่าปกติ
- ตัวอ่อนไม่เจริญแบ่งตัวตามที่ควรจะเป็น
- การใส่ตัวอ่อนทำยาก หรือใส่ไม่ได้ หรือ ใส่ได้แต่ไม่มีการเกาะที่เยื่อบุโพรงมดลูก หรือไม่มีการเกาะ แต่ไม่เจริญ ต่อไป
- ขั้นตอนต่าง ของ การทำเด็กหลอดแก้ว ประสบปัญหาที่ไม่ได้คิดมาก่อน เช่น ความแปรปรวนสิ่งแวดล้อม เครื่องมือเสีย สภาพห้องปฏิบัติการผิดปกติ
- มีการไม่สบายของฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย
- ความผิดพลาดของปุถุชน ฯลฯ
เมื่อ มีการตั้งครรภ์จากการทำเด็กหลอดแก้ว ก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการตั้งครรภ์ธรรมชาติ ได้แก่ การตั้งครรภ์แล้วเด็กไม่เจริญเติบโต การแท้ง การท้องนอกมดลูก การคลอดก่อนกำหนด การพิการแต่กำเนิด และความผิดปกติทางยีนส์ของเด็กที่เกิดมา แต่ที่แตกต่างคือ มีอัตราการตั้งครรภ์แฝดมากกว่าธรรมชาติ ทำให้มีโรคที่เกิดขึ้นจากการตั้งครรภ์แฝดมากกว่า คือ ครรภ์เป็นพิษ การแท้ง การคลอดก่อนกำหนด การตายคลอด เป็นต้น
สรุปการ ทำเด็กหลอดแก้วเป็นกระบวนการสุดท้ายที่การรักษาโดยวิธีธรรมดาที่ง่ายกว่า แล้วไม่ตั้งครรภ์ ซึ่งได้แก่ การคะเนการตกไข่และมีเพศสัมพันธุ์ การกระตุ้นการตกไข่ การผ่าตัดแก้ไขอวัยวะที่ผิดปกติ การผสมเทียมโดยการฉีดเชื้อ เป็นต้น ซึ่งสาเหตุของการมีบุตรยากมีมากมาย และมีความรุนแรงที่เป็นอุปสรรคต่อการตั้งครรภ์ของแต่ละคนแตกต่างกัน มีขบวนการที่แตกแขนงออกไปเช่น การทำ ICSI CIFT GIFT TESE ฯลฯ
ถึง กระนั้นการทำเด็กหลอดแก้วก็ไม่ใช่จะได้ผลสำเร็จเป็นส่วนใหญ่ จะต้องอาศัยความร่วมมือและความอดทนสูงของคู่สมรสด้วย แต่เมื่อตั้งครรภ์แล้วโอกาสปกติและผิดปกติของเด็กเหมือนกับการตั้งครรภ์ตาม ธรรมชาติ ยกเว้นที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์แฝดที่เกิดจากการทำเด็กหลอดแก้วจะมี มากกว่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น